ค่าน้ำในการแทงบอล

ค่าน้ำในการแทงบอล
ค่าน้ำ คือค่าที่ถูกกำหนดเอาไว้เพื่อกำหนดอัตราความคุ้มค่า การได้ – เสีย ต่อการเดิมพันในครั้งนั้น เช่น หากทีมที่คุณเลือกแทงมีค่าน้ำ 0.80 แล้วบอลเข้าตามที่คุณแทงเอาไว้ 100 บาท คุณจะได้เงิน 80 บาท และ 20 ถูกหักออกไปเป็นค่าน้ำ
โดยส่วนมากจะนิยมใช้ค่าน้ำแบบมาเลย์ (MY) : เป็นค่าน้ำที่คิดอัตราการได้เสียจากราคาบอลที่เดิมพันไป โดยจะมีอยู่ 2 ค่าให้เลือกแทงจะแสดงในตารางเป็นสีแดง และสีดำ
ตัวอย่าง
เดิมพันในน้ำดำ จะเป็นลักษณะคล้ายกับอัตราต่อรองราคาบอลทั่วไป โดยปกติแล้วมักจะต่ำกว่าทุน ตัวอย่าง เดิมพันในน้ำดำ 0.80 หากคุณเดิมพัน 100 บาท แล้วบอลเข้าก็จะได้เงิน 80 บาท ข้อดีของการเดิมพันน้ำดำคือ สามารถรักษาทุนเอาไว้ได้ แต่ข้อเสียคือได้กำไรน้อยลง
เดิมพันในน้ำแดงหรือบางครั้งเรียกว่าราคาติดลบ คนส่วนมากนิยมเล่นในค่านี้ เนื่องจากหากเสียจะเสียไม่มากและหากได้ก็จะได้เยอะ ตัวอย่าง เดิมพันในทีมที่มีค่าน้ำแดง -0.95 หากคุณเดิมพัน 100 บาท หากเสียจะเสีย 95 บาท หากชนะบอลเข้าจะได้เงินเท่ากับจำนวนเงินที่วางเดิมพันไว้ สรุปง่ายๆ คือ หากชนะจะได้เงินเท่ากับเงินที่วางเดิมพัน หากเสียจะเสียตามราคาน้ำ
สูตรสูงครึ่งแรก
เป็นการวิเคราะห์ผลบอลที่อาจเกิดขึ้น โดยดูจากผลงานที่ผ่านๆ มาของทั้งสองทีมที่กำลังแข่งขัน โดยดูสถิติว่ายิงได้มากน้อยแค่ไหน ครึ่งแรกยิงประตูได้เลยหรือไม่ จึงเป็นที่นิยมในการแทงบอลครึ่งแรกของการแข่งขัน โดยหากแทงบอลสดให้ดูรูปแบบการแข่งขัน
5 – 10 นาทีก่อนว่ามีโอกาสบุกหรือยิงประตูมากแค่ไหน หากเห็นแล้วว่ามีโอกาส และหาก
ราคาบอลสูงต่ำอยู่ที่ช่วง 0.5 – 1 ลูก ให้แทงสูงได้เลยเพราะมีโอกาสชนะเดิมพันสูงมาก โดยการใช้สูตรครึ่งแรกให้สังเกตจากข้อมูลต่อไปนี้
1. เลือกคู่บอลที่มีราคาต่อรองตั้งแต่ 0.5 – 1 ลูกขึ้นไป โดยหากราคาต่อรองยิ่งสูงโอกาสชนะก็ยิ่งเพิ่มมากตามไปด้วย
2. ดูผลงานย้อนหลังของทั้งสองทีมว่าเป็นอย่างไร มีการทำประตูทุกนัดหรือไม่ เสียประตูทุกนัดหรือไม่
3. ควรเลือกราคาบอลที่ไม่สูงมากเกินไป ประมาณ 2.5 ลูก ก่อนเริ่มการแข่งขัน เป็นราคากลางๆ
4. หากไม่มีการยิงประตูเลยหลังจากเริ่มการแข่งขันแล้ว 30 นาที ราคาบอลลดลงมาอยู่ที่ 2 – 2.5ลูก ให้เลือกเดิมพันในค่าน้ำแดงของราคามาเลย์ เพื่อให้เสียค่าน้ำน้อยที่สุด
5. และถ้าหากยังไม่มีการยิงประตูได้เลย และราคาบอลลดลงไปเหลือ 2 ลูก ให้เลือกแทงต่ำ และหากราคาลดลงไปถึง 1.5 – 2 ลูก ให้แทงต่ำจนกว่าจะได้กำไรหรือได้ทุนคืนแล้ว แล้วจึงหยุดเดิมพัน
5 เว็บพนันบอลต่างประเทศฮ็อตฮิต
Come Visit
แทงบอลสูงต่ำอย่างไรให้ชนะการเดิมพัน
1. เลือกคู่แข่งขันที่เรทราคาบอลไม่สูงมาก ควรเลือกราคา 2 ลูกถึง 2.5 ลูก เนื่องจากโอกาสที่จะทำประตูเกิน 2 ลูกมากกว่า
2. หลังจากที่บอลเริ่มทำการแข่งขัน โดยให้รอเรทราคาลดลงมาในช่วง 30 นาที หลังจากแข่งขันได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ให้แทงสูงได้เลย
3. หากครึ่งแรกของการแข่งขันไม่มีผลสกอร์ให้แทงต่ำได้เลย โดยดูว่าหากมีโอกาสทำประตูน้อยหากแทงต่ำไปก็สามารถมีโอกาสชนะการเดิมพันมากขึ้น
4. หากในครึ่งแรกมสกอร์ที่ 1 ลูก หรือ 2 ลูก และเรทราคาบอลช่วงสูงไหลขึ้นไปที่ 4.5 – 5 ลูก สามารถแทงต่ำไว้ได้เลยเนื่องจากโอกาสที่จะสามารถทำประตูในครึ่งหลังได้มีโอกาสไม่สูงมาก หรือหากสามารถทำประตูได้ส่วนมากก็จะไม่เกิน 2 ลูก
5. ให้เลือกทีมที่มีอัตราต่อรองมากๆ หรือทีมที่มีฟอร์มการเล่นโดดเด่น เพื่อเพิ่มโอกาสชนะ
แทงบอลสูงต่ำแบบไหนดีกว่ากัน
การแทงบอลสูงต่ำในแต่ละแมชนั้นไม่ได้มีกำหนดตายตัวว่าแบบไหนดีกว่ากัน โดยคุณสามารถชนะการเดิมพันได้ไม่ยากเพียงอาศัยการวิเคราะห์ผลงานเก่าๆ ของทั้งสองทีมว่ามีผลงานเป็นอย่างไร ทำประตูได้ทุกครั้งที่แข่งขันหรือไม่ หรือทำไม่ได้เลย ควรเลือกทีมที่คุณติดตามเป็นประจำหรือทราบข้อมูลของทีม รวมถึงข้อมูลของผู้เล่นที่ลงแข่งขันในแมตช์นั้นว่ามีใครลงเป็นตัวจริงบ้าง
รวมถึงการแทงบอลสดครึ่งแรกก็สามารถเพิ่มโอกาสชนะในการเดิมพันไปได้อีกหนึ่งขั้น เนื่องจากคุณจะได้เห็นรูปแบบของเกมการแข่งขัน รวมถึงฟอร์มของผู้เล่นของทั้งสองทีมว่าเป็นอย่างไร มีโอกาสในการทำประตูได้มากน้อยแค่ไหน
