top of page
Webp.net-resizeimage (36).jpg

กติกาบาคาร่าที่คุณควรรู้

Home: Welcome
8hk.jpg

กติกาบาคาร่า เป็นเกมไพ่ที่มีกติกาและหลักการเดิมพัน ที่ทำความเข้าใจได้ไม่ยาก สำหรับผู้ที่พึ่งเริ่มต้นและอยากทำความเข้าใจกับบาคาร่า นอกจากที่เราจะทราบกันดีอยู่แล้วว่า บาคาร่าคืออะไร บางคนอาจจะสงสัยว่า กติกาบาคาร่า ในบางเดิมพันใช้แบบนึง พอไปอีกโต๊ะเดินพันทำไมกติกาถึงไม่เหมือนกัน

ในบทความนี้เราจะมาทำความเข้าใจไปพร้อมกันว่ากติกาบาคาร่าแท้จริงแล้วมีกฎและกติกาที่ถูกต้องอย่างไรบ้าง

รวม กติกาบาคาร่า เข้าใจได้ไม่ยาก


1.เข้าใจกติกาการแจกไพ่


เริ่มจากการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการแจกไพ่ใน 1 ขอนใช้ไพ่ 4 – 8 สำรับ (ขึ้นอยู่กับคาสิโน) โดยไพ่ทุกใบจะถูกแจกไปในแต่ละตำแหน่งรอบละ 6 ใบ จนกระทั่งถึงแผ่นปิดเกม (แผ่นกระดาษหรือพลาสติกสีแตกต่างกันไปตามแต่ละคาสิโน) เพื่อป้องกันการมองเห็นจากด้านข้างของขอนไพ่  ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แสดงให้ทราบว่านี่คือเกมสุดท้ายของขอนไพ่สำรับนี้

คาสิโนแต่ละแห่ง จะมีวิธีการแจกไพ่ที่แตกต่างกันออกไป แต่เมื่อกล่าวโดยทั่วไปแล้วเราจะพบ วิธีการแจกไพ่บาคาร่า ด้วยกันหลักๆ 2 รูปแบบ

1.1 แจกและเปิดไพ่ทีละใบจนครบ 
เมื่อเริ่มต้นเกม ดีลเลอร์จะดึงไพ่ออกจากขอนครั้งละ 1 ใบ ผ่านเซ็นเซอร์กล้อง เพื่อแสดงผลไพ่ทีละใบ

ใบที่ 1 วางในตำแหน่ง  เพลเยอร์ ช่องที่ 1
พอใบที่ 2 ให้วางในตำแหน่ง  แบงเกอร์ ช่องที่ 1
ใบที่ 3 ให้วางในตำแหน่ง  เพลเยอร์ ช่องที่ 2
ใบที่ 4 วางในตำแหน่ง  แบงเกอร์ ช่องที่ 2
เมื่อแจกไพ่ครบ 4 ใบ แล้วมีผลแพ้ชนะเกิดขึ้นเกมจะจบลงทันที แต่ถ้ายังไม่สามารถระบุผลแพ้ชนะได้ จะต้องมีการแจกไพ่ใบที่ 5 และ 6 ซึ่งจะถูกแจกตาม สถานการณ์ของแต้มที่ปรากฏในเกมนั้นๆ ซึ่งจะกล่าวโดยละเอียดในหัวข้อ กฎ

ใน การจั่วไพ่ และกฎการจั่วไพ่ที่ 3

1.2 แจกและวางไพ่ประจำจุดทั้ง 6 ใบก่อนทำการเปิด  
เมื่อเริ่มต้นเกมดีลเลอร์จะทำการแจกไพ่แล้ววางในตำแหน่งจุดมาร์คทั้งหมด 6 จุด โดยไพ่ 4 ใบแรกจะวางอยู่ใน 

ฝั่งผู้เล่น 2 ใบ
ฝั่งเจ้ามือ 2 ใบ 
ไพ่สำหรับจั่ว 2 ใบ 
การแจกไพ่ในลักษณะนี้ผู้เดิมพันจะเห็นตัวเซ็นเซอร์ อยู่บริเวณเหนือตำแหน่งที่วางไพ่ ดีลเลอร์จะทำการเปิดไพ่พร้อมกันทีละ 2 ใบเริ่มจากฝั่งเพลเยอร์ตามด้วยแบงเกอร์ ถ้ายังไม่สามารถตัดสินผลแพ้ชนะได้จะต้องมีการจั่วไพ่ใบที่ 5 และใบที่ 6 ซึ่งจะอยู่ในจุดมาร์คที่เตรียมไว้

กรณีการแจกไพ่ 6 ใบ พร้อมกันแบบนี้ถ้าเกมจบด้วยไพ่เพียงแค่ 4 ใบส่วนไพ่ใบที่ 5 และใบที่ 6 ไม่ได้ถูกใช้งานในตาถัดไป ดีลเลอร์จะทำการดึงไพ่ 2 ใบนี้ไปวางในตำแหน่งของ ‘เพลเยอร์’  เพื่อใช้สำหรับการออกผลในรอบถัดไป

คาสิโนส่วนใหญ่ใช้วิธีนี้

การดึงไพ่ออกมาวางประจำจุดทั้ง 6 ใบก่อนเปิดไพ่เป็นวิธียอดฮิตเพราะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้เดิมพันได้ดีกว่า

เนื่องจากคาสิโนและดีลเลอร์จะมีโอกาสโกงได้ยากเพราะผู้เข้าร่วมเดิมพันทุกคนจะเห็นไพ่อยู่ประจำจุด ดังนั้นโอกาสที่จะมาเปลี่ยนไพ่หรือพลิกผลให้เป็นไปตามที่คาสิโนกำหนดเอาไว้ ‘แทบเป็นไปไม่ได้’

2. กติกาการนับแต้มบาคาร่า
รายละเอียดสำคัญของการเล่น บาคาร่า นั่นคือวิธีการวัดผลแพ้ชนะ ตัดสินกันที่ผลรวมของแต้มไพ่ที่เปิดออกมาในแต่ละฝั่ง (ใช้ผลรวมไพ่ 4 ใบ หรือ 6 ใบ แล้วแต่สถานการณ์)

ระบบทำการรวมแต้มไพ่ทั้ง 2 ฝั่ง แล้วเปรียบเทียบแต้มโดยยึดเอาผลเฉพาะหลักหน่วย ดังนั้นรายละเอียดสำคัญคือการที่ผู้เล่นจะต้องเข้าใจวิธีการนับแต้มไพ่ ซึ่งไพ่แต่ละใบก็จะมีมูลค่าที่แตกต่างกันตามรายละเอียดดังนี้ 

ไพ่ A มีมูลค่าเท่ากับ 1
ไพ่เลข 2 ถึงเลข 9 มีมูลค่าตามจำนวนที่แสดงบนหน้าไพ่
ไพ่ 10 , J , Q , K มีค่า เท่ากับ 0

Home: About

3. เข้าใจกติกาการเล่น
เมื่อเริ่มเกม ‘ดีลเลอร์’ จะทำ การแจกไพ่ ตามกฎการแจกไพ่ของเกมบาคาร่าในแต่ละคาสิโนดังที่ได้กล่าวไปในหัวข้อข้างต้น ‘ผู้เดิมพัน’ ต้องทำการวางเดิมพันในตัวเลือกที่ต้องการ โดยวิธีการวางเดิมพันจะมีเงื่อนไขของเวลามาเป็นตัวกำหนด

โดยทั่วไปจะมีระยะเวลาให้วางเดิมพันที่ประมาณ 15 – 40 วินาที บนหน้าจอจะปรากฏการนับถอยหลังตลอดระยะเวลาที่อนุญาตให้ทำการวางเดิมพัน 

เมื่อทำการวางเดิมพันเสร็จสิ้นระบบจะมีการแจ้งเตือนถึงการสิ้นสุดช่วงเวลาเดิมพัน จากนั้นดีลเลอร์จะทำการแจกไพ่โดยหงายหน้าไพ่สองใบต่อหน้าผู้เดิมพันทุกคน 

โดยเริ่มจากการเปิดไพ่ในฝั่งเพลเยอร์ ตามด้วย แบงเกอร์  ฝั่งไหนที่มีแต้มใกล้เคียง 9 แต้มมากที่สุดจะเป็นฝ่ายชนะ ซึ่งวิธีการชนะจะให้ผลตอบแทนที่ไม่เท่ากัน

เคสที่ 1: ถ้า เพลเยอร์ เป็นฝ่ายชนะ ฝ่ายเพลเยอร์จะได้รับผลตอบแทน  100 เปอร์เซ็นต์ของยอดเดิมพัน (1:1)

กรณีที่ 2: แต่ถ้าฝ่ายแบงเกอร์เป็นฝ่ายชนะ ฝ่ายแบงค์เกอร์จะได้รับผลตอบแทนคิดเป็น  95 เปอร์เซ็นต์ของยอดเดิมพันซึ่งเป็นผลลัพธ์ (1:0.95)

เคสที่ 3: แต่ถ้าหากผลออกมาเป็น ‘เสมอ’ เท่ากับการคืนเงินเดิมพันให้กับผู้เดิมพันทั้ง 2 ฝั่ง

หากผู้เล่นหรือ เจ้ามือ มีแต้ม ไพ่ 2 ใบแรกในทั้ง 2 ฝั่งเท่ากับ 8 แต้มหรือ 9 แต้ม จะเท่ากับผลชนะทันที แต่ถ้าทั้งสองฝั่งมีแต้มในมือรวมกันน้อยกว่าหรือเท่ากับ  5 ต้องมีการจั่วไพ่ใบที่ 3 เกิดขึ้น 

ซึ่งรายละเอียดของการจั่วไพ่ใบที่ 3 จะมีกฏกติกาเฉพาะแยกออกไปดังรายละเอียดที่จะกล่าวในหัวข้อ กฎในการจั่วไพ่ และกฎการจั่วไพ่ใบที่ 3

กฎในการจั่วไพ่ และกฎการจั่วไพ่ที่ 3

กฎในการจั่วไพ่ใบที่ 3 จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อการเปิดไพ่ 2 ใบแรกที่เกิดขึ้นทั้ง 2 ฝั่งไม่สามารถที่จะให้ผลชนะได้ชัดเจน ซึ่งจะถูกแบ่งออกเป็น 2 กรณีดังนี้

ฝั่งเพลเยอร์ มี แต้มน้อยกว่าหรือเท่ากับ 5 
ฝั่งแบงเกอร์ มีแต้มในรูปแบบที่แตกต่างกันตั้งแต่ 3 ถึง 6 แต้ม ซึ่งจะให้ผลของการจั่วไพ่ใบที่ 3 แตกต่างกัน ตามรายละเอียดที่แสดงในนรูปกฎการจั่วไพ่ 
4. เข้าใจรูปแบบการเดินพันและเงินรางวัล

หลักการวางเดิมพันนั้นมีอยู่ด้วยกันหลากหลายรูปแบบโดยตามหลักการที่ถูกต้องแล้วจะมีรูปแบบ กติกาบาคาร่า การวางเดิมพันอยู่ด้วยกันทั้งหมด 8 รูปแบบดังนี้

1. การวางเดิมพันในส่วน Banker 
คือการคาดการณ์ ว่า ฝั่งแบงค์เกอร์จะเป็นฝ่ายชนะ การคำนวณความน่าจะเป็นตามทฤษฎีพบว่าแบงค์เกอร์ มีโอกาสชนะ 45.85 เปอร์เซ็นต์  โดยมีอัตราการจ่ายผลตอบแทนที่ 1: 0.95 เท่า

2 การวางเดิมพันในส่วน Player 
คือการคาดการณ์ ว่า ฝั่งเพลเยอร์ จะเป็นฝ่ายชนะ การคำนวณความน่าจะเป็นตามทฤษฎีพบว่าเพลเยอร์ มีโอกาสชนะ 44.62 เปอร์เซ็นต์  โดยมีอัตราการจ่ายผลตอบแทนที่ 1:1 เท่า

3. การวางเดิมพันในส่วน Tie 
คือการคาดการณ์ ว่า ฝั่งเพลเยอร์ และเพลเยอร์ มีแต้มไพ่เท่ากัน  ซึ่งโดยปกติแล้วการเดิมพันในลักษณะนี้ มีโอกาสเกิดขึ้นได้ 9.53 เปอร์เซ็นต์ โดยมีอัตราการจ่ายผลตอบแทนที่ 1: 8 เท่า

4. การวางเดิมพันในส่วน Player Pair 
คือการคาดการณ์ว่าจะมีผลไพ่ 2 ใบแรก ในฝั่ง เพลเยอร์ มีแต้มที่เท่ากันโดยไม่ต้องสนใจว่าแต้มรวมทั้งหมดจะให้ผลแพ้หรือชนะโดยมีอัตราการจ่ายผลตอบแทนที่ 11 เท่า

5. การวางเดิมพันในส่วน Banker Pair 
คือการคาดการณ์ว่าจะมีผลไพ่ 2 ใบแรก ในฝั่ง แบงเกอร์ มีแต้มที่เท่ากันโดยไม่ต้องสนใจว่าแต้มรวมทั้งหมดจะให้ผลแพ้หรือชนะ โดยมีอัตราการจ่ายผลตอบแทนที่ 11 เท่า

6. การวางเดิมพันในส่วน Perfect Pair 
คือการคาดการณ์ว่าจะมีผลไพ่ 2 ใบแรก ในฝั่งใดฝั่งหนึ่ง มีแต้มที่เท่ากัน มีดอกที่เหมือนกัน โดยไม่ต้องสนใจว่าแต้มรวมทั้งหมดจะให้ผลแพ้หรือชนะ ตัวเลือกการเดิมพันแบบนี้ จะวางเงินเดิมพันในช่อง Perfect Pair เพียง ครั้งเดียว เดิมพันได้ทั้ง 2 ฝั่ง โดยมีอัตราการจ่ายผลตอบแทนที่ 20-25 เท่า แล้วแต่คาสิโน

7. การวางเดิมพันในส่วน Big 
คือ การคาดการณ์จำนวนไพ่ที่เปิดในเกมแต่ละรอบ ซึ่งให้ความหมายว่า จำนวนไพ่ในแต่ละรอบการเดิมพัน มีผลแพ้ชนะจากการเปิดไพ่รวม มากกว่า  4 ใบ โดยมีอัตราการจ่ายผลตอบแทนที่ 0.5 เท่า

8. การวางเดิมพันในส่วน Small 
คือการคาดการณ์จำนวนไพ่ที่เปิดในเกมแต่ละรอบ ซึ่งให้ความหมายในเชิงของการได้รับผลแพ้ชนะจากการเปิดไพ่ มากกว่า  4 ใบ โดยมีอัตราการจ่ายผลตอบแทนที่ 1.5 เท่า

Home: Opening Hours
bottom of page