top of page
กติกาบาคาร่า ที่คุณควรรู้

กติกาบาคาร่าที่คุณควรรู้
Home: Welcome

กติกาบาคาร่า เป็นเกมไพ่ที่มีกติกาและหลักการเดิมพัน ที่ทำความเข้าใจได้ไม่ยาก สำหรับผู้ที่พึ่งเริ่มต้นและอยากทำความเข้าใจกับบาคาร่า นอกจากที่เราจะทราบกันดีอยู่แล้วว่า บาคาร่าคืออะไร บางคนอาจจะสงสัยว่า กติกาบาคาร่า ในบางเดิมพันใช้แบบนึง พอไปอีกโต๊ะเดินพันทำไมกติกาถึงไม่เหมือนกัน
ในบทความนี้เราจะมาทำความเข้าใจไปพร้อมกันว่ากติกาบาคาร่าแท้จริงแล้วมีกฎและกติกาที่ถูกต้องอย่างไรบ้าง
รวม กติกาบาคาร่า เข้าใจได้ไม่ยาก
1.เข้าใจกติกาการแจกไพ่
เริ่มจากการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการแจกไพ่ใน 1 ขอนใช้ไพ่ 4 – 8 สำรับ (ขึ้นอยู่กับคาสิโน) โดยไพ่ทุกใบจะถูกแจกไปในแต่ละตำแหน่งรอบละ 6 ใบ จนกระทั่งถึงแผ่นปิดเกม (แผ่นกระดาษหรือพลาสติกสีแตกต่างกันไปตามแต่ละคาสิโน) เพื่อป้องกันการมองเห็นจากด้านข้างของขอนไพ่ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แสดงให้ทราบว่านี่คือเกมสุดท้ายของขอนไพ่สำรับนี้
คาสิโนแต่ละแห่ง จะมีวิธีการแจกไพ่ที่แตกต่างกันออกไป แต่เมื่อกล่าวโดยทั่วไปแล้วเราจะพบ วิธีการแจกไพ่บาคาร่า ด้วยกันหลักๆ 2 รูปแบบ
1.1 แจกและเปิดไพ่ทีละใบจนครบ
เมื่อเริ่มต้นเกม ดีลเลอร์จะดึงไพ่ออกจากขอนครั้งละ 1 ใบ ผ่านเซ็นเซอร์กล้อง เพื่อแสดงผลไพ่ทีละใบ
ใบที่ 1 วางในตำแหน่ง เพลเยอร์ ช่องที่ 1
พอใบที่ 2 ให้วางในตำแหน่ง แบงเกอร์ ช่องที่ 1
ใบที่ 3 ให้วางในตำแหน่ง เพลเยอร์ ช่องที่ 2
ใบที่ 4 วางในตำแหน่ง แบงเกอร์ ช่องที่ 2
เมื่อแจกไพ่ครบ 4 ใบ แล้วมีผลแพ้ชนะเกิดขึ้นเกมจะจบลงทันที แต่ถ้ายังไม่สามารถระบุผลแพ้ชนะได้ จะต้องมีการแจกไพ่ใบที่ 5 และ 6 ซึ่งจะถูกแจกตาม สถานการณ์ของแต้มที่ปรากฏในเกมนั้นๆ ซึ่งจะกล่าวโดยละเอียดในหัวข้อ กฎ
ใน การจั่วไพ่ และกฎการจั่วไพ่ที่ 3
1.2 แจกและวางไพ่ประจำจุดทั้ง 6 ใบก่อนทำการเปิด
เมื่อเริ่มต้นเกมดีลเลอร์จะทำการแจกไพ่แล้ววางในตำแหน่งจุดมาร์คทั้งหมด 6 จุด โดยไพ่ 4 ใบแรกจะวางอยู่ใน
ฝั่งผู้เล่น 2 ใบ
ฝั่งเจ้ามือ 2 ใบ
ไพ่สำหรับจั่ว 2 ใบ
การแจกไพ่ในลักษณะนี้ผู้เดิมพันจะเห็นตัวเซ็นเซอร์ อยู่บริเวณเหนือตำแหน่งที่วางไพ่ ดีลเลอร์จะทำการเปิดไพ่พร้อมกันทีละ 2 ใบเริ่มจากฝั่งเพลเยอร์ตามด้วยแบงเกอร์ ถ้ายังไม่สามารถตัดสินผลแพ้ชนะได้จะต้องมีการจั่วไพ่ใบที่ 5 และใบที่ 6 ซึ่งจะอยู่ในจุดมาร์คที่เตรียมไว้
กรณีการแจกไพ่ 6 ใบ พร้อมกันแบบนี้ถ้าเกมจบด้วยไพ่เพียงแค่ 4 ใบส่วนไพ่ใบที่ 5 และใบที่ 6 ไม่ได้ถูกใช้งานในตาถัดไป ดีลเลอร์จะทำการดึงไพ่ 2 ใบนี้ไปวางในตำแหน่งของ ‘เพลเยอร์’ เพื่อใช้สำหรับการออกผลในรอบถัดไป
คาสิโนส่วนใหญ่ใช้วิธีนี้
การดึงไพ่ออกมาวางประจำจุดทั้ง 6 ใบก่อนเปิดไพ่เป็นวิธียอดฮิตเพราะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้เดิมพันได้ดีกว่า
เนื่องจากคาสิโนและดีลเลอร์จะมีโอกาสโกงได้ยากเพราะผู้เข้าร่วมเดิมพันทุกคนจะเห็นไพ่อยู่ประจำจุด ดังนั้นโอกาสที่จะมาเปลี่ยนไพ่หรือพลิกผลให้เป็นไปตามที่คาสิโนกำหนดเอาไว้ ‘แทบเป็นไปไม่ได้’
2. กติกาการนับแต้มบาคาร่า
รายละเอียดสำคัญของการเล่น บาคาร่า นั่นคือวิธีการวัดผลแพ้ชนะ ตัดสินกันที่ผลรวมของแต้มไพ่ที่เปิดออกมาในแต่ละฝั่ง (ใช้ผลรวมไพ่ 4 ใบ หรือ 6 ใบ แล้วแต่สถานการณ์)
ระบบทำการรวมแต้มไพ่ทั้ง 2 ฝั่ง แล้วเปรียบเทียบแต้มโดยยึดเอาผลเฉพาะหลักหน่วย ดังนั้นรายละเอียดสำคัญคือการที่ผู้เล่นจะต้องเข้าใจวิธีการนับแต้มไพ่ ซึ่งไพ่แต่ละใบก็จะมีมูลค่าที่แตกต่างกันตามรายละเอียดดังนี้
ไพ่ A มีมูลค่าเท่ากับ 1
ไพ่เลข 2 ถึงเลข 9 มีมูลค่าตามจำนวนที่แสดงบนหน้าไพ่
ไพ่ 10 , J , Q , K มีค่า เท่ากับ 0
Home: About
3. เข้าใจกติกาการเล่น
เมื่อเริ่มเกม ‘ดีลเลอร์’ จะทำ การแจกไพ่ ตามกฎการแจกไพ่ของเกมบาคาร่าในแต่ละคาสิโนดังที่ได้กล่าวไปในหัวข้อข้างต้น ‘ผู้เดิมพัน’ ต้องทำการวางเดิมพันในตัวเลือกที่ต้องการ โดยวิธีการวางเดิมพันจะมีเงื่อนไขของเวลามาเป็นตัวกำหนด
โดยทั่วไปจะมีระยะเวลาให้วางเดิมพันที่ประมาณ 15 – 40 วินาที บนหน้าจอจะปรากฏการนับถอยหลังตลอดระยะเวลาที่อนุญาตให้ทำการวางเดิมพัน
เมื่อทำการวางเดิมพันเสร็จสิ้นระบบจะมีการแจ้งเตือนถึงการสิ้นสุดช่วงเวลาเดิมพัน จากนั้นดีลเลอร์จะทำการแจกไพ่โดยหงายหน้าไพ่สองใบต่อหน้าผู้เดิมพันทุกคน
โดยเริ่มจากการเปิดไพ่ในฝั่งเพลเยอร์ ตามด้วย แบงเกอร์ ฝั่งไหนที่มีแต้มใกล้เคียง 9 แต้มมากที่สุดจะเป็นฝ่ายชนะ ซึ่งวิธีการชนะจะให้ผลตอบแทนที่ไม่เท่ากัน
เคสที่ 1: ถ้า เพลเยอร์ เป็นฝ่ายชนะ ฝ่ายเพลเยอร์จะได้รับผลตอบแทน 100 เปอร์เซ็นต์ของยอดเดิมพัน (1:1)
กรณีที่ 2: แต่ถ้าฝ่ายแบงเกอร์เป็นฝ่ายชนะ ฝ่ายแบงค์เกอร์จะได้รับผลตอบแทนคิดเป็น 95 เปอร์เซ็นต์ของยอดเดิมพันซึ่งเป็นผลลัพธ์ (1:0.95)
เคสที่ 3: แต่ถ้าหากผลออกมาเป็น ‘เสมอ’ เท่ากับการคืนเงินเดิมพันให้กับผู้เดิมพันทั้ง 2 ฝั่ง
หากผู้เล่นหรือ เจ้ามือ มีแต้ม ไพ่ 2 ใบแรกในทั้ง 2 ฝั่งเท่ากับ 8 แต้มหรือ 9 แต้ม จะเท่ากับผลชนะทันที แต่ถ้าทั้งสองฝั่งมีแต้มในมือรวมกันน้อยกว่าหรือเท่ากับ 5 ต้องมีการจั่วไพ่ใบที่ 3 เกิดขึ้น
ซึ่งรายละเอียดของการจั่วไพ่ใบที่ 3 จะมีกฏกติกาเฉพาะแยกออกไปดังรายละเอียดที่จะกล่าวในหัวข้อ กฎในการจั่วไพ่ และกฎการจั่วไพ่ใบที่ 3
กฎในการจั่วไพ่ และกฎการจั่วไพ่ที่ 3
กฎในการจั่วไพ่ใบที่ 3 จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อการเปิดไพ่ 2 ใบแรกที่เกิดขึ้นทั้ง 2 ฝั่งไม่สามารถที่จะให้ผลชนะได้ชัดเจน ซึ่งจะถูกแบ่งออกเป็น 2 กรณีดังนี้
ฝั่งเพลเยอร์ มี แต้มน้อยกว่าหรือเท่ากับ 5
ฝั่งแบงเกอร์ มีแต้มในรูปแบบที่แตกต่างกันตั้งแต่ 3 ถึง 6 แต้ม ซึ่งจะให้ผลของการจั่วไพ่ใบที่ 3 แตกต่างกัน ตามรายละเอียดที่แสดงในนรูปกฎการจั่วไพ่
4. เข้าใจรูปแบบการเดินพันและเงินรางวัล
หลักการวางเดิมพันนั้นมีอยู่ด้วยกันหลากหลายรูปแบบโดยตามหลักการที่ถูกต้องแล้วจะมีรูปแบบ กติกาบาคาร่า การวางเดิมพันอยู่ด้วยกันทั้งหมด 8 รูปแบบดังนี้
1. การวางเดิมพันในส่วน Banker
คือการคาดการณ์ ว่า ฝั่งแบงค์เกอร์จะเป็นฝ่ายชนะ การคำนวณความน่าจะเป็นตามทฤษฎีพบว่าแบงค์เกอร์ มีโอกาสชนะ 45.85 เปอร์เซ็นต์ โดยมีอัตราการจ่ายผลตอบแทนที่ 1: 0.95 เท่า
2 การวางเดิมพันในส่วน Player
คือการคาดการณ์ ว่า ฝั่งเพลเยอร์ จะเป็นฝ่ายชนะ การคำนวณความน่าจะเป็นตามทฤษฎีพบว่าเพลเยอร์ มีโอกาสชนะ 44.62 เปอร์เซ็นต์ โดยมีอัตราการจ่ายผลตอบแทนที่ 1:1 เท่า
3. การวางเดิมพันในส่วน Tie
คือการคาดการณ์ ว่า ฝั่งเพลเยอร์ และเพลเยอร์ มีแต้มไพ่เท่ากัน ซึ่งโดยปกติแล้วการเดิมพันในลักษณะนี้ มีโอกาสเกิดขึ้นได้ 9.53 เปอร์เซ็นต์ โดยมีอัตราการจ่ายผลตอบแทนที่ 1: 8 เท่า
4. การวางเดิมพันในส่วน Player Pair
คือการคาดการณ์ว่าจะมีผลไพ่ 2 ใบแรก ในฝั่ง เพลเยอร์ มีแต้มที่เท่ากันโดยไม่ต้องสนใจว่าแต้มรวมทั้งหมดจะให้ผลแพ้หรือชนะโดยมีอัตราการจ่ายผลตอบแทนที่ 11 เท่า
5. การวางเดิมพันในส่วน Banker Pair
คือการคาดการณ์ว่าจะมีผลไพ่ 2 ใบแรก ในฝั่ง แบงเกอร์ มีแต้มที่เท่ากันโดยไม่ต้องสนใจว่าแต้มรวมทั้งหมดจะให้ผลแพ้หรือชนะ โดยมีอัตราการจ่ายผลตอบแทนที่ 11 เท่า
6. การวางเดิมพันในส่วน Perfect Pair
คือการคาดการณ์ว่าจะมีผลไพ่ 2 ใบแรก ในฝั่งใดฝั่งหนึ่ง มีแต้มที่เท่ากัน มีดอกที่เหมือนกัน โดยไม่ต้องสนใจว่าแต้มรวมทั้งหมดจะให้ผลแพ้หรือชนะ ตัวเลือกการเดิมพันแบบนี้ จะวางเงินเดิมพันในช่อง Perfect Pair เพียง ครั้งเดียว เดิมพันได้ทั้ง 2 ฝั่ง โดยมีอัตราการจ่ายผลตอบแทนที่ 20-25 เท่า แล้วแต่คาสิโน
7. การวางเดิมพันในส่วน Big
คือ การคาดการณ์จำนวนไพ่ที่เปิดในเกมแต่ละรอบ ซึ่งให้ความหมายว่า จำนวนไพ่ในแต่ละรอบการเดิมพัน มีผลแพ้ชนะจากการเปิดไพ่รวม มากกว่า 4 ใบ โดยมีอัตราการจ่ายผลตอบแทนที่ 0.5 เท่า
8. การวางเดิมพันในส่วน Small
คือการคาดการณ์จำนวนไพ่ที่เปิดในเกมแต่ละรอบ ซึ่งให้ความหมายในเชิงของการได้รับผลแพ้ชนะจากการเปิดไพ่ มากกว่า 4 ใบ โดยมีอัตราการจ่ายผลตอบแทนที่ 1.5 เท่า
Home: Opening Hours
bottom of page